เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565 งานอภิบาล ฝ่ายกิจการนักเรียน โรงเรียนอัสสัมชัญ จัดพิธีฉลองศาสนนาม นักบุญเปโตร อัครสาวก (Saint Peter the Apostle) องค์อุปถัมภ์ของ ภราดา ดร. อาวุธ ศิลาเกษ ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ และ นักบุญยอห์น บัปติสต์ (John the Baptist) องค์อุปถัมภ์ของ ภราดาคฑาวุธ สิทธิโชคสกุล ผู้จัดการ/หัวหน้าฝ่ายธุรการ-การเงิน/หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป/ที่ปรึกษาฝ่ายโปรแกรมภาษาอังกฤษ โดยมีนักเรียนคาทอลิก อ่านประวัตินักบุญเปโตร และ นักบุญยอห์น บัปติสต์ มิสณัฎฐี เจริญเกียรติบวร หัวหน้าฝ่ายวิชาการ ผู้แทนครูกล่าวคำอวยพร ผู้แทนคณะผู้บริหาร คณะครู ผู้แทนนักเรียนคาทอลิก ผู้แทนผู้ปกครองคาทอลิกโรงเรียนอัสสัมชัญ มอบมาลัยกร และของขวัญ พร้อมกันร่วมขับร้องเพลง Happy Feast Day และภราดาทั้ง 2 ท่าน มอบของที่ระลึกให้กับนักเรียน และผู้ปกครองคาทอลิกที่มีศาสนนามนักบุญเปโตร และนักบุญยอห์น บัปติสต์ พร้อมทั้งกล่าวให้โอวาท ณ วัดน้อย ชั้น 10 อาคารอัสสัมชัญ 2003 โรงเรียนอัสสัมชัญ เขตบางรัก กรุงเทพฯ
ประวัตินักบุญเปโตร อัครสาวก
เปโตรเป็นชาวเมืองเบธไชดา แคว้นกาลิลี ประเทศปาเลสไตร์ บิดาชื่อยอห์น น้องชายชื่ออันดรูว์ (หรืออังเดร ) เดิมมีชื่อว่าซีมอน แต่พระเยซูคริสต์ทรงเปลี่ยนให้ใหม่ว่า “ เปโตร” แปรว่าศิลา แต่งงานแล้ว(มธ.8.14)มีอาชีพเป็นชาวประมง อันดรูว์น้องชายเป็นคนแนะนำให้มารู้จักพระเยซูคริสต์ จึงสมัครเป็นศิษย์ของพระองค์แต่นั้นมา ( ยน.1.42)
เปโตรเป็นคนมีนิสัยมุทะลุ ใจร้อน พูดจาขวานผ่าซาก ตรงไปตรงมา แต่เด็ดเดี่ยวเหมือนศิลาสมกับชื่อที่พระเยซูคริสต์ทรงตั้งให้ จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้า ของอัครสาวก ดังจะเห็นได้จากพระวรสารที่เอ่ยชื่อเปโตรเป็นคนแรก ในบรรดาอัครสาวกเสมอ ( มธ.10.2 มก.3.16 ลก.6.14) และเป็นคนพูดแทนอัครสาวกอื่นๆ พระเยซูคริสต์ทรงมอบหน้าที่สำคัญให้แก่เปโตร คือ เป็นศิลารากฐานของพระศาสนจักร ( มธ.16.18)เป็นชุมพาบาลเลี้ยงดูฝูงแกะ ( ยน.21.15)และเปโตรก็ทำหน้าที่เหล่านี้อย่างออกหน้าออกตาเช่น เป็นคนพูดต่อหน้าประชาชนแทนอัครสาวกอื่นๆ หลังจากรับพระจิตแล้ว( กจ.1.14-36) เป็นคนเปิดประตูรับคนต่างๆ ชาติ คือนายทหารโรมันกับครอบครัว เข้ามาเป็นคริสตชนกลุ่มแรก (กจ.10.48 ) เป็นคนตัดสินปัญหาในที่ประชุมที่กรุงเยรูซาเล็มเรื่องไม่บังคับให้คริสตชนต่างชาติต้องเข้าสุหนัด ( กจ.15.7-11)
หนังสือกิจการอัครสาวกกล่าวถึงเปโตรถูกจับติดคุกและเตรียมถูกประหาร แต่เทวทูตของพระเป็นเจ้ามาช่วยออกจากคุกได้ ( กจ.12.3-10)ต่อมาจากหลักฐานที่กระเซ็นกระสายในจดหมายของนักบุญเปาโลบ้างจากประจักษ์พยานที่เล่าขานกันสืบมาบ้าง พอจะทราบว่าเปโตรได้เดินทางไปปลูกฝังพระศาสนาที่เมืองอันทิโอกในปี ค.ศ.40 ก่อนที่จะกลับมาที่กรุงเยรูซาเล็มในปี ค.ศ. 42 และถูกจับติดคุกรอการประหารดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เมื่อพ้นจากคุกมาได้อย่างอัศจรรย์ก็ออกไปประกาศพระศาสนาแถบกับปาโดเชีย ปอนตุส บีธีเนีย กาลาเทีย และที่อื่นๆ และคงจะไปที่เมืองโครินธ์ด้วย เพราะปรากฎมีพวกของเปโตรอยู่ที่นั่น (1 คร.1.12)สุดท้ายก็ไปพำนักอยู่ที่กรุงโรม ต่อมาในปี ค.ศ.50 ชาวยิวถูกขับไล่ออกจากกรุงโรม เปโตรก็คงกลับมาที่กรุงเยรูซาเล็ม และมาร่วมประชุมตัดสินปัญหาคริสตชนต่างชาติที่นั่นดังที่กล่าวมาข้างต้น หลังจากนั้นเปโตรคงกลับไปกรุงโรมอีกและอยู่ปกครองกลุ่มคริสตชนที่นั้นจนกระทั่งวาระสุดท้าย ท่านได้เขียนจดหมาย 2 ฉบับถึงกลุ่มคริสตชนที่กรุงโรมเพื่อสั่งสอนและให้กำลังใจ
เกิดการเบียดเบียนศาสนาขึ้นที่กรุงโรมในสมัยจักรพรรดิ์เนโรซึ่งเป็นผู้จุดไฟเผากรุงโรม และใส่ความคริสตชนว่าเป็นผู้ทำ คริสชนเป็นจำนวนมากถูกจับไปทรมานและสังเวยชีวิตเป็นเครื่องเล่นของชาวโรมันการเบียดเบียนยาวนานถึง 4ปี (ค.ศ.64-68) เชื่อว่าเปโตรคงถูกฆ่าตายในปี ค.ศ.67 โดยถูกตรึงกางเขน มีตำนานเล่าว่าขณะที่มีการเบียดเบียนศาสนาเปโตรได้รับคำเตือนจากผู้หวังดีให้หลบหนีไปด้วยเกรงว่าฝูงแกะจะแตกกระจัดกระจายเมื่อไร้ชุมพาบาล พอออกมาพ้นกำแพงเมืองเปโตรก็พบพระเยซูคริสตทรงแบกกางเขนเดินสวนทางมา เปโตรทูลถามพระองค์ว่า “พระอาจารย์จะเสด็จไปไหน ?” พระองค์ตรัสตอบว่า “ เราจะไปกรุงโรมเพื่อให้เขาตรึงเราอีกครั้งหนึ่ง” เปโตรจึงได้สติ หันกลับกรุงโรม ยอมให้เขาจับไปตรึงกางเขนแต่เพราะสำนึกว่าตนเป็นคนทรยศ ไม่คู่ควรที่จะตายบนไม้กางเขนเยี่ยงพระอาจารย์จึงขอร้องเพชฌฆาตให้ปักไม้กางเขนของตนเอาศรีษะลงดิน เอาเท้าชี้ฟ้า
ศพของเปโตรถูกฝังไว้ที่เนินวาติกัน ณ สถานที่นี้เองต่อมาได้สร้างพระวิหารใหญ่คร่อมคลุมศพไว้และตั้งชื่อว่าพระวิหารนักบุญเปโตรเพื่อเป็นเกียรติประวัติแด่ท่านมาจนทุกวันนี้ และเนื่องจากเปโตรมาพำนักและปกครองกลุ่มคริสตชนที่กรุงโรมจนกระทั่งสิ้นชีวิต จึงถือว่าท่านเป็นสังฆราชองค์แรกของกรุงโรม และเนื่องจากท่านเป็นหัวหน้าของอัครสาวกทั้งหลาย จึงถือว่าท่านเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกของคริสตศาสนา ผู้สืบตำแหน่งของท่านต่อๆมาจึงได้รับตำแหน่งสังฆราชของกรุงโรมและพระสันตะปาปาของคริสตศาสนาด้วย
ประวัตินักบุญยอห์น บัปติสต์
ยอห์น เป็นบุตรของท่านสมณะเศคาริยาห์ และนางเอลีซาเบธ เทวดากาเบรียลได้ประจักษ์มาหาท่านเศคาลียาห์ขณะอยู่ในพระวิหาร และแจ้งให้ทราบล่วงหน้าถึงการเกิดของยอห์น(ลก. 1 : 1-25) เมื่อยอห์นเติบโตขึ้นก็ได้ไปจำศีลภาวนาอยู่ในทะเลทราย ไม่ดื่มสุราเมรัย รับประทานตั๊กแตนและนํ้าผึ้งเท่านั้นเป็นอาหาร จาริกสั่งสอนประชาชนทั่วไปที่แม่นํ้าจอร์แดน(มก. 1 : 4-8) ยอห์นประกาศว่า " ท่านทั้งหลาย จงใช้โทษบาปและกลับใจเถิด เหตุว่า พระราชัยสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว ข้าพเจ้าเป็นเสียงร้องในที่เปลี่ยว จงเตรียมทางให้ตรงเพื่อรับเสด็จพระคริสตเจ้า" ประชาชนจำนวนมากได้รับศีลนํ้าชำระบาปจากยอห์น (มธ. 3 : 1-6) พระเยซูเจ้าทรงขอให้ยอห์นโปรดศีลนํ้าแก่พระองค์(มธ. 3 : 13-15)
ท่านยอห์น กล้าตำนิและตักเตือนกษัตริย์เฮโรด ที่ได้ทรงเอาภรรยาน้องชายของพระองค์เอง (น้องสะใภ้) มาเป็นมเหสี ท่านจึงถูกจับเข้าคุก และถูกประหารชีวิตโดยการตัดศีรษะ(มธ. 14 : 1-10) พระเยซูเจ้าได้ตรัสถึงยอห์นว่า " ไม่มีประกาศกองค์ใด ที่ยิ่งใหญ่ไปกว่ายอห์น บัปติสต์ (มธ. 11 : 10-11)
----------------------------------------------------------------------------------
Website : https://www.assumption.ac.th
Fanpage : https://www.facebook.com/AssumptionCollege1885
Fanpage : https://www.facebook.com/ACsportsTeam
Line@ Official (@assumption1885) : https://lin.ee/AgVkwFD
Instagram : https://www.instagram.com/assumption_style
YouTube : https://www.youtube.com/AssumptionCollege1885
จำนวนภาพในอัลบั้มนี้ 69 ภาพ
ข่าวที่นำอัลบั้มนี้ไปอ้างอิง (จำนวน 0 ข่าว )
หน่วยงานที่นำอัลบั้มนี้ไปอ้างอิง (จำนวน 0 หน่วยงาน )
แผนงาน (จำนวน 0 แผนงาน )
โครงการ (จำนวน 0 โครงการ )
ภาพโดยนักเรียน: ไม่ได้แจ้งในระบบ
วันที่โพสต์ : 29 มิ.ย. 2565 วันที่ถ่ายภาพ : 29 มิ.ย. 2565
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565 งานอภิบาล ฝ่ายกิจการนักเรียน โรงเรียนอัสสัมชัญ จัดพิธีฉลองศาสนนาม นักบุญเปโตร อัครสาวก (Saint Peter the Apostle) องค์อุปถัมภ์ของ ภราดา ดร. อาวุธ ศิลาเกษ ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ และ นักบุญยอห์น บัปติสต์ (John the Baptist) องค์อุปถัมภ์ของ ภราดาคฑาวุธ สิทธิโชคสกุล ผู้จัดการ/หัวหน้าฝ่ายธุรการ-การเงิน/หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป/ที่ปรึกษาฝ่ายโปรแกรมภาษาอังกฤษ โดยมีนักเรียนคาทอลิก อ่านประวัตินักบุญเปโตร และ นักบุญยอห์น บัปติสต์ มิสณัฎฐี เจริญเกียรติบวร หัวหน้าฝ่ายวิชาการ ผู้แทนครูกล่าวคำอวยพร ผู้แทนคณะผู้บริหาร คณะครู ผู้แทนนักเรียนคาทอลิก ผู้แทนผู้ปกครองคาทอลิกโรงเรียนอัสสัมชัญ มอบมาลัยกร และของขวัญ พร้อมกันร่วมขับร้องเพลง Happy Feast Day และภราดาทั้ง 2 ท่าน มอบของที่ระลึกให้กับนักเรียน และผู้ปกครองคาทอลิกที่มีศาสนนามนักบุญเปโตร และนักบุญยอห์น บัปติสต์ พร้อมทั้งกล่าวให้โอวาท ณ วัดน้อย ชั้น 10 อาคารอัสสัมชัญ 2003 โรงเรียนอัสสัมชัญ เขตบางรัก กรุงเทพฯ
ประวัตินักบุญเปโตร อัครสาวก
เปโตรเป็นชาวเมืองเบธไชดา แคว้นกาลิลี ประเทศปาเลสไตร์ บิดาชื่อยอห์น น้องชายชื่ออันดรูว์ (หรืออังเดร ) เดิมมีชื่อว่าซีมอน แต่พระเยซูคริสต์ทรงเปลี่ยนให้ใหม่ว่า “ เปโตร” แปรว่าศิลา แต่งงานแล้ว(มธ.8.14)มีอาชีพเป็นชาวประมง อันดรูว์น้องชายเป็นคนแนะนำให้มารู้จักพระเยซูคริสต์ จึงสมัครเป็นศิษย์ของพระองค์แต่นั้นมา ( ยน.1.42)
เปโตรเป็นคนมีนิสัยมุทะลุ ใจร้อน พูดจาขวานผ่าซาก ตรงไปตรงมา แต่เด็ดเดี่ยวเหมือนศิลาสมกับชื่อที่พระเยซูคริสต์ทรงตั้งให้ จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้า ของอัครสาวก ดังจะเห็นได้จากพระวรสารที่เอ่ยชื่อเปโตรเป็นคนแรก ในบรรดาอัครสาวกเสมอ ( มธ.10.2 มก.3.16 ลก.6.14) และเป็นคนพูดแทนอัครสาวกอื่นๆ พระเยซูคริสต์ทรงมอบหน้าที่สำคัญให้แก่เปโตร คือ เป็นศิลารากฐานของพระศาสนจักร ( มธ.16.18)เป็นชุมพาบาลเลี้ยงดูฝูงแกะ ( ยน.21.15)และเปโตรก็ทำหน้าที่เหล่านี้อย่างออกหน้าออกตาเช่น เป็นคนพูดต่อหน้าประชาชนแทนอัครสาวกอื่นๆ หลังจากรับพระจิตแล้ว( กจ.1.14-36) เป็นคนเปิดประตูรับคนต่างๆ ชาติ คือนายทหารโรมันกับครอบครัว เข้ามาเป็นคริสตชนกลุ่มแรก (กจ.10.48 ) เป็นคนตัดสินปัญหาในที่ประชุมที่กรุงเยรูซาเล็มเรื่องไม่บังคับให้คริสตชนต่างชาติต้องเข้าสุหนัด ( กจ.15.7-11)
หนังสือกิจการอัครสาวกกล่าวถึงเปโตรถูกจับติดคุกและเตรียมถูกประหาร แต่เทวทูตของพระเป็นเจ้ามาช่วยออกจากคุกได้ ( กจ.12.3-10)ต่อมาจากหลักฐานที่กระเซ็นกระสายในจดหมายของนักบุญเปาโลบ้างจากประจักษ์พยานที่เล่าขานกันสืบมาบ้าง พอจะทราบว่าเปโตรได้เดินทางไปปลูกฝังพระศาสนาที่เมืองอันทิโอกในปี ค.ศ.40 ก่อนที่จะกลับมาที่กรุงเยรูซาเล็มในปี ค.ศ. 42 และถูกจับติดคุกรอการประหารดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เมื่อพ้นจากคุกมาได้อย่างอัศจรรย์ก็ออกไปประกาศพระศาสนาแถบกับปาโดเชีย ปอนตุส บีธีเนีย กาลาเทีย และที่อื่นๆ และคงจะไปที่เมืองโครินธ์ด้วย เพราะปรากฎมีพวกของเปโตรอยู่ที่นั่น (1 คร.1.12)สุดท้ายก็ไปพำนักอยู่ที่กรุงโรม ต่อมาในปี ค.ศ.50 ชาวยิวถูกขับไล่ออกจากกรุงโรม เปโตรก็คงกลับมาที่กรุงเยรูซาเล็ม และมาร่วมประชุมตัดสินปัญหาคริสตชนต่างชาติที่นั่นดังที่กล่าวมาข้างต้น หลังจากนั้นเปโตรคงกลับไปกรุงโรมอีกและอยู่ปกครองกลุ่มคริสตชนที่นั้นจนกระทั่งวาระสุดท้าย ท่านได้เขียนจดหมาย 2 ฉบับถึงกลุ่มคริสตชนที่กรุงโรมเพื่อสั่งสอนและให้กำลังใจ
เกิดการเบียดเบียนศาสนาขึ้นที่กรุงโรมในสมัยจักรพรรดิ์เนโรซึ่งเป็นผู้จุดไฟเผากรุงโรม และใส่ความคริสตชนว่าเป็นผู้ทำ คริสชนเป็นจำนวนมากถูกจับไปทรมานและสังเวยชีวิตเป็นเครื่องเล่นของชาวโรมันการเบียดเบียนยาวนานถึง 4ปี (ค.ศ.64-68) เชื่อว่าเปโตรคงถูกฆ่าตายในปี ค.ศ.67 โดยถูกตรึงกางเขน มีตำนานเล่าว่าขณะที่มีการเบียดเบียนศาสนาเปโตรได้รับคำเตือนจากผู้หวังดีให้หลบหนีไปด้วยเกรงว่าฝูงแกะจะแตกกระจัดกระจายเมื่อไร้ชุมพาบาล พอออกมาพ้นกำแพงเมืองเปโตรก็พบพระเยซูคริสตทรงแบกกางเขนเดินสวนทางมา เปโตรทูลถามพระองค์ว่า “พระอาจารย์จะเสด็จไปไหน ?” พระองค์ตรัสตอบว่า “ เราจะไปกรุงโรมเพื่อให้เขาตรึงเราอีกครั้งหนึ่ง” เปโตรจึงได้สติ หันกลับกรุงโรม ยอมให้เขาจับไปตรึงกางเขนแต่เพราะสำนึกว่าตนเป็นคนทรยศ ไม่คู่ควรที่จะตายบนไม้กางเขนเยี่ยงพระอาจารย์จึงขอร้องเพชฌฆาตให้ปักไม้กางเขนของตนเอาศรีษะลงดิน เอาเท้าชี้ฟ้า
ศพของเปโตรถูกฝังไว้ที่เนินวาติกัน ณ สถานที่นี้เองต่อมาได้สร้างพระวิหารใหญ่คร่อมคลุมศพไว้และตั้งชื่อว่าพระวิหารนักบุญเปโตรเพื่อเป็นเกียรติประวัติแด่ท่านมาจนทุกวันนี้ และเนื่องจากเปโตรมาพำนักและปกครองกลุ่มคริสตชนที่กรุงโรมจนกระทั่งสิ้นชีวิต จึงถือว่าท่านเป็นสังฆราชองค์แรกของกรุงโรม และเนื่องจากท่านเป็นหัวหน้าของอัครสาวกทั้งหลาย จึงถือว่าท่านเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกของคริสตศาสนา ผู้สืบตำแหน่งของท่านต่อๆมาจึงได้รับตำแหน่งสังฆราชของกรุงโรมและพระสันตะปาปาของคริสตศาสนาด้วย
ประวัตินักบุญยอห์น บัปติสต์
ยอห์น เป็นบุตรของท่านสมณะเศคาริยาห์ และนางเอลีซาเบธ เทวดากาเบรียลได้ประจักษ์มาหาท่านเศคาลียาห์ขณะอยู่ในพระวิหาร และแจ้งให้ทราบล่วงหน้าถึงการเกิดของยอห์น(ลก. 1 : 1-25) เมื่อยอห์นเติบโตขึ้นก็ได้ไปจำศีลภาวนาอยู่ในทะเลทราย ไม่ดื่มสุราเมรัย รับประทานตั๊กแตนและนํ้าผึ้งเท่านั้นเป็นอาหาร จาริกสั่งสอนประชาชนทั่วไปที่แม่นํ้าจอร์แดน(มก. 1 : 4-8) ยอห์นประกาศว่า " ท่านทั้งหลาย จงใช้โทษบาปและกลับใจเถิด เหตุว่า พระราชัยสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว ข้าพเจ้าเป็นเสียงร้องในที่เปลี่ยว จงเตรียมทางให้ตรงเพื่อรับเสด็จพระคริสตเจ้า" ประชาชนจำนวนมากได้รับศีลนํ้าชำระบาปจากยอห์น (มธ. 3 : 1-6) พระเยซูเจ้าทรงขอให้ยอห์นโปรดศีลนํ้าแก่พระองค์(มธ. 3 : 13-15)
ท่านยอห์น กล้าตำนิและตักเตือนกษัตริย์เฮโรด ที่ได้ทรงเอาภรรยาน้องชายของพระองค์เอง (น้องสะใภ้) มาเป็นมเหสี ท่านจึงถูกจับเข้าคุก และถูกประหารชีวิตโดยการตัดศีรษะ(มธ. 14 : 1-10) พระเยซูเจ้าได้ตรัสถึงยอห์นว่า " ไม่มีประกาศกองค์ใด ที่ยิ่งใหญ่ไปกว่ายอห์น บัปติสต์ (มธ. 11 : 10-11)
----------------------------------------------------------------------------------
Website : https://www.assumption.ac.th
Fanpage : https://www.facebook.com/AssumptionCollege1885
Fanpage : https://www.facebook.com/ACsportsTeam
Line@ Official (@assumption1885) : https://lin.ee/AgVkwFD
Instagram : https://www.instagram.com/assumption_style
YouTube : https://www.youtube.com/AssumptionCollege1885
จำนวนภาพในอัลบั้มนี้ 69 ภาพ
ข่าวที่นำอัลบั้มนี้ไปอ้างอิง (จำนวน 0 ข่าว ) หน่วยงานที่นำอัลบั้มนี้ไปอ้างอิง (จำนวน 0 หน่วยงาน ) แผนงาน (จำนวน 0 แผนงาน ) โครงการ (จำนวน 0 โครงการ ) ผู้ถ่ายภาพ: ผู้ถ่ายภาพนักเรียน: ไม่ได้แจ้งในระบบ ผู้โพสต์: กำหนดการที่นำไปอ้างอิง : รายชื่อผู้ร้องขอไฟล์ภาพต้นฉบับ (ความละเอียดสูง) |
ชื่อ-สกุล |
---|