[ Home ]  [ Today 's Event ]  [ FAQ ]  [ บันทึกงาน ]
User: Passwd:
ค้นหาข้อมูล:

โกสน ไม้ประดับดูดสารพิษ

โกสนเป็นพันธุ์ไม้ตระกูลเดียวกับโป๊ยเซียน โกสนมีอยู่มากมายหลายพันธุ์ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ความโดดเด่นอยู่ที่ลักษณะของใบที่มีหลากหลายทั้งรูปแบบและสีสันที่สดใสงดงาม จึงนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับทั้งภายในและภายนอกอาคาร ตามปกติโกสนเป็นไม้ประดับที่ปลูกไว้ภายนอกอาคาร เพราะเป็นไม้กลางแจ้งที่ชอบแดด สีสันของโกสนจะสวยงามอยู่ได้ขึ้นอยู่กับการที่ได้รับแสงแดดที่พอเพียง ดังนั้นเมื่อนำโกสนมาปลูกเป็นไม้ประดับภายในอาคาร จึงควรตั้งไว้ในที่ที่ได้รับแสงอย่างพอเพียง หรือมีแสงแดดส่องถึง มิฉะนั้นสีของใบโกสนจะซีดลง

โกสนมีความสามารถอยู่บ้างในการดูดมลพิษในอากาศ ถึงแม้จะไม่มากเท่ากับไม้ประดับชนิดอื่นๆ แต่มีข้อได้เปรียบที่สีสันสวยงามของโกสน ทำให้ได้รับเลือกเป็นไม้ประดับยอดนิยมชนิดหนึ่ง

 

ชื่อวิทยาศาสตร์: Codiaeum variegatium (L.) Blume
ชื่อสามัญ: Croton, Variegated Laurel, Garden Croton
ชื่ออื่น: กรีกะสม กรีสาเก โกรต๋น (ทั่วไป)
วงศ์: EUPHORBIACEAE

ลักษณะทั่วไป
โกสนเป็นพรรณไม้ยืนต้นประเภทไม้พุ่มขนาดย่อมลำต้นมีความสูงประมาณ 3-5 เมตร ผิวลำต้นเรียบสีน้ำตาลปนเทา ลำต้นตรง แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มตรงกลม ใบแตกออกจากต้นและปลายกิ่ง ลักษณะใบมีรูปร่าง สีสันขนาด แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ชนิดพันธุ์ ดอกออกเป็นพวงห้อยลงมาด้านล่างซึ่งออกมาจากปลายกิ่งพวงหนึ่งยาวประมาณ1015เซนติเมตรดอกมีสีชาวดอกเล็กมากมีกลียบ
ดอก 5 กลีบ ดอกบานเต็มที่จะเห็นเกสรตัวผู้เป็ฯเส้นฝอย การบานของดอกเป็นรูปทรงกลม

 

ใบ ใบเรียงเวียนสลับ ใบเดี่ยว รูปใบมีหลายแบบ เช่นกลม แถบยาว รูปไข่แกมรูปหอก ความกว้างยาวของใบไม่สามารถกำหนดได้ เนื่องจากมีความผันแปรมาก โคนใบแหลม ปลายใบแหลม บางครั้งมีเส้นกลางใบยื่นแล้วมีรยางค์แผ่เป็นใบเล็กๆ อีก 2 ใบ ขอบใบเรียบหรือเว้า บางต้นเว้าถึงเส้นกลางใบ แผ่นใบอาจบิดเป็นเกลียว มีสีต่างๆ เช่น ขาว เหลือง ส้ม ชมพู แดง ม่วงและดำ

 

ดอก ดอกช่อออกที่ปลายกิ่ง ดอกแยกเพศ ช่อดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่บนต้นเดียวกัน ช่อดอกเพศผู้มีดอกกลม เล็ก ดอกย่อยมี 30-60 ดอก กลีบดอก 5-6 กลีบ เกสรเพศผู้จำนวนมาก ช่อดอกเพศเมียตั้งขึ้น มี 10-20 ดอก ไม่มีกลีบดอก เกสรเพศเมียแยกเป็น 3 แฉก

 

ผล ผลกลม มี 3 พู เมื่อแก่แตกได้ มี 3 เมล็ด แต่ละช่องมี 1 เมล็ด

 

พันธุ์โกสนที่ใช้ปลูกเป็นไม้มงคล

1. เหรียญทอง                      2.  ไกรทอง                          3.  ทับทิมทอง                      4.  ทองอุไร                          5. ผู้ชณะสิบทิศ

6.  มหาราช                          7.  หมื่นหาญ                       8.  รัตนโกสินทร์                 9.  เศรษฐีสุพรรณ

 

การเป็นมงคล
คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นโกสนไว้ประจำบ้าน จะทำให้มีบุญบารมี เพราะโกสนโบราณคงกล่าวถึง กุศล คือ การส้างบุญ คุณงามความดีนอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าสามารถช่วยคุ้มครองให้มีความอยู่เย็นเป็นสุขเพราะคนโบราณเชื่อว่าต้นโกสนเป็นต้น
ไม้เก่าแก่ที่ปลูกคู่บ้านคู่มืองโดยสมัยรัชกาลที่5 ทรงนำเข้ามาปลูกไว้ในพระราชวังบ้านขุนนางวัดหลวงเพื่อให้เกิดความร่วมเย็นเป็นสุขตลอดมา

ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นโกสนไว้ทางทิศตะวันออก ผู้ปลูกควรปลูกในวันอังคาร เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทั่วไปทางใบให้ปลูกในวันอังคาร

การผลิตโกสน ในปัจจุบันเป็นการผลิตและจําหน่ายภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ โดยสีที่เป็นที่นิยมคือสีแดง แดงเข้ม สําหรับการส่งออกประเทศไทยส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นมากที่สุด
โกสน เป็นไม้ประดับยืนต้นที่ชอบความชื้นแต่ไม่แฉะ ถ้าให้น้ำแฉะเกินไปจะทําให้ใบร่วงง่าย ต้องการพรางแสงประมาณ 50 % ถ้าปลูกในที่กลางแจ้งควรได้รับแสงแดดในช่วงเช้าถึงประมาณ 13.00 น. ถ้าหลัง 14.00 น. ยังได้รับแสงแดดมากเกินไปอาจจะทําให้ใบไหม้ได้

โกสน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามลักษณะการใช้งาน คือ
1. โกสนที่ปลูกกลางแจ้ง ใช้สําหรับจัดสวน ดูแลรักษาง่าย ทนทานต่อโรคและแมลง
2. โกสนที่ปลูกในที่ร่มรําไร เพื่อความสวยงาม พรางแสงประมาณ 50 % ซึ่งโกสน
ประเภทนี้ยังแบ่งออกได้เป็นอีก 5 ประเภท คือ โกสนใบกลม โกสนใบกลางหรือใบสั้น โกสนใบยาว โกสนใบตรี โกสนใบบายศรีหรือใบมะม่วง

ลักษณะของต้นโกสนที่ดี
ใบมีความสม่ำเสมอ ใบหนา เป็นใบกลมหรือใบกลางเหมือน ๆ กัน ไม่มีหลายแบบในต้นเดียวกันสีสดสวยงามสม่ำเสมอทุกใบก้านใบมีขนาดเหมาะสม อวบแข็งแรง ไม่ยาวไม่สั้นเกินไปลําต้นอวบ แข็งแรง ช่วงลําต้นต้องมีข้อถี่พอสมควร และสม่ำเสมอ ไม่ถี่บ้าง ห่างบ้าง

โกสนที่ปลูกกลางแจ้ง เช่น พันธุ์สาวเชียงใหม่ สร้อยระย้า
โกสนที่ปลูกในที่ร่มรําไร เช่น พันธุ์บางคูวัด พ่อคือ อํานาจเจริญ แม่คือแสงจันทร์
จุดเด่นคือใบมีสีเหลืองขนาดใหญ่พันธุ์สุราษฎร์ธานีเป็นไม้สีส้มแดง พันธุ์ยะลาจุดเด่นใบเป็นเส้น เป็นต้น

1.  การเปลี่ยนยอด
ใช้โกสนพันธุ์ขุนช้างถวายฎีกา หรือจุดธํามรงค์ที่สมบูรณ์เป็นต้นตอเนื่องจากเป็นพันธุ์ที่เจริญเติบโตเร็ว หากินเก่ง เมื่อเปลี่ยนยอดแล้วติดได้ง่ายมียางเยอะ เนื้อไม้อ่อน ทนแล้ง ต้านทานโรคได้ดี
วิธีการเปลี่ยนยอด ต้นพันธุ์ดีที่จะนํามาเสียบยอดต้องงดใส่ปุ๋ยอย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนนํามาเสียบ ตัดยอดต้นตอออกยาวประมาณ 3 นิ้ว ให้เหลือใบไว้กับต้นตออย่างน้อย 5 – 6 ใบ แล้วผ่าต้นตอเป็นรูปลิ่มลึกประมาณ 1/2 – 1 เซนติเมตร แล้วนํายอดพันธุ์ดีที่มีใบติดหรือไม่มีใบติดมาก็ได้เฉือนโคนให้เป็นรูปลิ่ม เสียบลงไปในรอยผ่าของต้นตอ เมื่อเสียบลงไปแล้ว ต้องให้ผิวของต้นตอกับผิวของยอดที่นํามาเสียบเสมอกันด้านใดด้านหนึ่งของต้น แล้วนําแผ่นพลาสติกพันให้รอบรอยเสียบให้มิด ไม่ให้น้ำเข้าแผลได้และผูกให้แน่นพันธุ์
 

การขยายพันธุ์
นําถุงพลาสติกคลุมลงมาให้เลยรอยที่พันแผ่นพลาสติกไว้ประมาณ 1 คู่ใบ แล้วผูกปากถุงให้แน่นด้วยเชือกพลาสติก นําไปไว้ในที่ร่มประมาณ 7 – 10 วัน จึงตัดเชือกผูกถุงออกแล้วตั้งไว้ที่เดิมอีก 1 อาทิตย์แล้วนําออกไปวางที่มีแดดรําไร สําหรับผู้ผลิตที่มีตู้อบพลาสติกซึ่งปูพื้นด้วยทราย รดน้ำพื้นทรายให้ชุ่ม 1 ครั้ง นําโกสนที่เสียบยอดแล้วไปใส่ไว้ในตู้อบปิดพลาสติก ประมาณ 25 วัน เมื่อครบ25 วันแล้ว เปิดพลาสติก ประมาณ 2 – 3 วัน จากนั้นจึงนํามาเปลี่ยนใส่กระถางขนาด 6 นิ้ว เพื่อให้เจริญเติบโตได้รวดเร็ว ถ้าผลิตเพื่อการจําหน่าย ดูแลอีกประมาณ 1 เดือน ก็สามารถจําหน่ายได้สําหรับการปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับ เมื่อมีขนาดโตขึ้นก็เปลี่ยนกระถางให้มีขนาดใหญ่ขึ้น

2.  การตอนกิ่ง
ใช้มีดควั่นเปลือกที่ลําต้นโกสน ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วลอกเปลือกที่ควั่นออกปล่อยให้แห้งประมาณ 3 วัน แล้วจึงนําดินหุ้มแผลด้านบน แล้วนํากาบมะพร้าวแช่น้ำทุบให้แผ่แบนหรือจะใช้ขุยมะพร้าวก็ได้ หุ้มทับดินแล้วเอาใบตองหุ้มหรือพลาสติกหุ้มด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง มัดเชือกให้แน่น โกสนบางพันธุ์ออกรากยาก แนะนําให้ใช้วิธีการกรีดแผลด้านบนเป็นรูปตัว V คว่ำ หลังจากนั้นประมาณ 30 วัน โกสนจะเริ่มออกราก จึงตัดกิ่งตอนนําไปปลูกในกระถางต่อไป

3.  การปักชํา
นําดินใส่กระถางให้เต็ม รดน้ำให้ชุ่มทิ้งไว้ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง แล้วจึงตัดยอดโกสนมาปักชํา โดยตัดยอดยาวประมาณ 3 – 4 นิ้ว แล้วผ่าโคนกิ่งที่ตัดให้ลึกเข้าไปประมาณ1/2 – 1 เซนติเมตร นําไปจุ่มน้ำยาเรียกรากหรือไม่จุ่มก็ได้ นํายอดโกสนปักลงในกระถางที่เตรียมไว้ให้ลึกลงไปประมาณ 1 นิ้ว ให้ก้านใบจมลงในดินเล็กน้อย เพื่อป้องกันต้นหมุน แล้วนําไปใส่ตู้อบ ประมาณ 20 – 25 วันหรือเมื่อแตกยอดใหม่ออกมา ซึ่งแสดงว่ารากเริ่มเดินแล้ว จึงนําออกจากตู้อบ นํามาวางในที่แสงแดดรําไรอีกประมาณ 7 วัน จึงนําออกไปวางในที่ที่มีแสงแดดตามสมควร ถ้าไม่มีตู้อบเมื่อปักชําแล้วก็นําไปไว้ในที่ร่มรําไร

4.  การติดตา
เลือกต้นตอโกสนพันธุ์ขุนช้างถวายฎีกาหรือจุดธํามรงค์ที่อวบสมบูรณ์แล้วตัดยอดออกยาวประมาณ 3 นิ้ว หลังตัดยอดแล้ว ปลิดใบที่ต้นออกอีก 2 – 3 ใบ เหลือใบบนสุดไว้หนึ่งใบเพื่อป้องกันตอแห้ง บริเวณใต้ใบหรือบริเวณที่ปลิดใบออก ผ่าต้นตอให้เป็นรูปตัว T แล้วเฉือนตาโกสนต้นดีให้ติดใบออกมาด้วย แล้วนําไปเสียบในรูปตัว T ของต้นตอ แล้วใช้พลาสติกมัดให้แน่นโดยเปิดส่วนตาไว้เพื่อให้ตาของต้นพันธุ์ดีแตกขึ้นได้แล้วนําถุงพลาสติกมาคลุมไว้โดยมัดใต้ใบคู่ที่ต่ำจากรอยติดตา ผูกเชือกให้แน่นไม่ให้อากาศเข้า แล้วเอาไปไว้ในที่ร่มประมาณ 15 วัน จึงเอาถุงพลาสติกออก เมื่อตาของต้นพันธุ์ดีแตกออกมาแล้ว ปล่อยให้มีใบประมาณ 5 – 10 ใบ จึงแกะพลาสติกออกเพื่อให้โกสนเจริญเติบโตสวยงามต่อไป

5.  การเพาะเมล็ด
การผสมเกสรโกสนนิยมทําในช่วงตอนเย็นถึงตอนกลางคืน การสังเกตดอกตัวผู้ว่าเกสรเริ่มบานนําดอกเกสรตัวผู้ที่บานแล้ว ไปแตะตรงกลางระหว่างกลางปลายกลีบของดอกตัวเมียและสังเกตว่ามีเกสรเหลือง ๆ ติดอยู่ตรงกลางระหว่างกลีบของดอกตัวเมีย ถ้าไม่ติดควรนํามาผสมให้มีเกสรตัวผู้ติด ถ้าไม่แน่ใจวันรุ่งขึ้นก็อาจจะทำอีกครั้ง และทําไปจนหมดช่อและคอยสังเกตดูถ้าดอกตัวเมียไม่ร่วงหลุดจากช่อ แสดงว่าเริ่มติดเมล็ดแล้ว จากผสมเกสรติดจนแก่จะใช้เวลาประมาณ 1เดือนหลังผสมติดแล้ว ควรหาถุงกระดาษคลุมแล้วผูกไว้อย่าให้เมล็ดกระเด็นออกไปได้ภายใน 1 ผลอาจจะมีเมล็ด 1 – 3 เมล็ด เมื่อเมล็ดแห้งดีแล้ว ควรเก็บมาแล้วรีบนําไปเพาะในดินร่วน โดยใส่ดินประมาณครึ่งหนึ่งของภาชนะ แล้วนําเมล็ดโกสนโปรยลงไป แล้วโรยทับหน้าด้วยดินร่วน รดน้ำให้ชุ่ม ตั้งไว้ในที่ร่มประมาณ 6 – 7 วัน เมล็ดจะเริ่มงอกเป็นต้นอ่อน หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน แยกต้นกล้าลงในกระถางเล็ก ๆ กระถางละ1 ต้น และอีกประมาณ 2 เดือนต่อมา อาจจะทราบได้ว่าต้นที่ได้ใหม่มีลักษณะดีหรือไม่วิธีการขยายพันธุ์ที่นิยม และให้ผลดีคือวิธีการเปลี่ยนยอด ต้นจะเจริญเติบโตเร็วกว่าวิธีอื่นและหากขาดน้ำก็จะเหี่ยวช้ากว่าวิธีอื่น และใบไม่ร่วง ส่วนวิธีการอื่นถ้าขาดน้ำ ใบจะเหี่ยวและร่วง วิธีการปักชําจะชะงักการเจริญเติบโตในช่วงแรก การเพาะเมล็ดนิยมทําเพื่อการปรับปรุงพันธุ์

ดินที่ใช้ปลูกโกสนควรมีความโปร่ง การระบายน้ำ ระบายอากาศดีตัวอย่างดินผสมสําหรับปลูกโกสน หน้าดินนา 3 ส่วน ใบก้ามปู3 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน กาบมะพร้าว 2 ส่วน และอาจผสมสารป้องกันกําจัดเชื้อราด้วย

การให้น้ำ  :  โกสนชอบสภาพชื้นแต่ไม่แฉะ ถ้าปลูกในร่ม อาจให้น้ำ 2 วันต่อครั้ง

การให้ปุ๋ย
ใช้ปุ๋ยสูตรละลายเร็วสูตรเสมอ เดือนละ 1 ครั้ง  อาจจะใช้ปุ๋ยละลายช้า แต่จะเพิ่มต้นทุนไม่แนะนําให้ใช้ปุ๋ยเกล็ดละลายน้ำฉีดพ่นทางใบ เนื่องจากจะทําให้ใบเขียว นอกจากนั้นต้องให้ธาตุอาหารรองและธาตุอาหารจุลธาตุเพิ่มเติม เพื่อให้ได้โกสนที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้น ใบหนา ใหญ่สีสวย ได้แก่แคลเซียม ( Ca ) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของผนังเซล และจําเป็นต่อการแบ่งเซลในลําต้นและรากพืช โดยอาจให้ในรูปแคลเซียมไนเตรท หรือกระดูกป่น สังกะสี( Zn ) ซึ่งช่วยในการสร้างแป้งและน้ำตาล ทําให้โกสนมีคุณภาพดีสีสวย ทนแดดวิตามินบี1 ช่วยเพิ่มปริมาณราก ทําให้ดูดน้ำและธาตุอาหารได้มากขึ้น และอาจใช้สาหร่ายทะเลสดฉีดพ่นด้วย เพื่อช่วยขยายท่อน้ำเลี้ยงทําให้รากพืชดูดน้ำและธาตุอาหารได้มากขึ้น ซึ่งสามารถฉีดพ่นพร้อมสารป้องกันและกําจัดศัตรูพืชได้นอกจากนั้นควรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมด้วย เพื่อช่วยปรับปรุงให้ดินโปร่ง ร่วนซุย อย่างไรก็ตามการให้น้ำและปุ๋ยมากเกินไป จะทําให้ใบร่วง

การป้องกันและกําจัดศัตรูพืช
แมลงศัตรูที่สําคัญของโกสน คือ ไรแดง ซึ่งจะพบระบาดมากในช่วงรอยต่อปลายฝนต้นหนาว ช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ไรแดงจะใช้ปากดูดน้ำเลี้ยงและชักใยอยู่ใต้ท้องใบ เห็นเป็น

การปลูก
การดูแลรักษา
จุดสีแดงดํา ถ้าถูกทําลายมาก ใบจะไหม้และร่วง โดยจะร่วงตั้งแต่ยอดลงมาถึงโคนต้น กรณีไรแดงทําความเสียหายไม่มากให้พ่นด้วยกํามะถันผงให้ทั่วทั้งใต้ใบและบนใบ ทุก 4 – 5 วัน ไม่ควรพ่นในขณะที่มีแสงแดดหรืออากาศร้อนจะทําให้ใบไหม้ได้ถ้าระบาดมากต้องรีบฉีดพ่นด้วยสารป้องกันกําจัดแมลง

เทคนิคการปลูกเลี้ยงโกสนให้เจริญเติบโตดี ต้องเปลี่ยนดินและขนาดกระถางให้เหมาะสม
โกสนชอบกระถางดินเผา เพราะกระถางดินเผามีการระบายอากาศที่ดีไม่อับ รากเจริญเติบโตได้ดีสําหรับพันธุ์ที่ปลูกในที่ร่มรําไร ควรพรางแสงประมาณ 50 % ถ้าปลูกในที่กลางแจ้งควรให้ได้รับแสงแดดในช่วงเช้าถึงประมาณ 13.00 น. ถ้าหลัง 14.00 น. ไม่ควรให้ได้รับแสงแดดจัด

ที่มา  : กรมส่งเสริมการเกษตร. 2549. ไม้ดอกไม้ประดับเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจํากัด.จัดทําและเผยแพร่ทางเว็บไซต์: กลุ่มสื่อส่งเสริมการเกษตร ส่วนส่งเสริมและเผยแพร่ สํานักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี








โดย:
งาน: งานบริหารหลักสูตรและวิชาการ
อ้างอิงแผนงาน : -
อ้างอิงโครงการ : -
แหล่งที่มา: กรมส่งเสริมการเกษตร. 2549

ขอบคุณสำหรับการโวตท์
Vote
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง
เป็นประโยชน์ต่อฉัน
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
มีประโยชน์ต่อทุกคน
บุคลากร 0 บุคคลภายนอก 1

อ่าน 721 ครั้ง